หมู่เกาะสุรินทร์ เกาะที่ถูกพบโดยบังเอิญ
กล่าวกันว่าในสมัยก่อนนั้นทะเลไทย เต็มไปด้วยเกาะมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบและหลังจากที่มีการสำรวจอย่างจริงจังก็พบเกาะต่างๆ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ที่มี่ความสวยงามทางธรรมชาติอยู่เต็มไปหมด เหมือนอย่างหมู่เกาะสุรินทร์ หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ที่ถูกค้นพบโดยบังเอิญแต่ได้กลายมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีปะการังและผืนป่าอุดมสมบูรณ์มีชื่อเสียงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย
หมู่เกาะสุรินทร์ หรือ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ถูกค้นพบโดยพระยาสุรินทราชา (นกยูง วิเศษกุล) ซึ่งตอนนั้นดำรงตำแหน่งเป็นเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ตอย่างบังเอิญแต่ไม่มีบันทึกว่าค้นพบในปีไหน เลยทำให้ตั้งชื่อว่าหมู่เกาะสุรินทร์ตามชื่อของพระยาสุรินทราชาที่ค้นพบนั่นเอง เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในชายฝั่งอันดามันมีพื้นที่ติดกับชายแดนทางทะเล ไทย – พม่า มีเนื้อที่ทั้งหมด 84,375 ไร่ด้วยกัน ประกอบด้วยเกาะทั้งหมด 5 เกาะด้วยกัน คือเกาะสุรินทร์เหนือ, เกาะสุรินทร์ใต้, เกาะไข่ หรืออีกชื่อคือเกาะตารินตา, เกาะกลางและเกาะรี
หมู่เกาะสุรินทร์เต็มไปด้วยปะการังมากมาย และมีสภาพป่าไม้ที่ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากมีทั้งป่าแบบดิบชื้น, ป่าชายเลย,และป่าชายหาดเลยทำให้ที่นี่มีสัตว์มากมายหลายพันธุ์ มีนกมากมายหลายชนิด และที่หมู่เกาะสุรินทร์ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงามที่สุดของประเทศไทย ใต้น้ำมีแนวปะการังที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา และยังมีกองหินใต้น้ำมากมายที่ไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสด้วยการดำน้ำลึก ถือว่าเป็นความสวยงามที่ยากจะลืมเลือนได้ แถมยังมีพันธุ์ปลาอีกหลายชนิดด้วยกัน แต่ที่พบเจอได้บ่อยที่สุดคือฉลามวาฬ เวลาที่เหมาะสมที่สุดในการที่จะไปเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์คือช่วงหน้าหน้าต่อด้วยฤดูร้อน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – เมษายน
ด้วยความที่หมู่เกาะสุรินทร์เป็นแนวเกาะขนาดใหญ่ที่วางตัวอยู่ในอ่าว ทำให้เกาะสามารถรับแรงลมได้ทั้งลมในฤดูร้อน และลมในฤดูฝน ซึ่งนั่นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หมู่เกาะสุรินทร์มีแนวปะการังที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย นอกจากนี้ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเกาะก็คือชาว “มอแกน” ที่ยังคงไว้ซึ่งการดำรงชีวิตใกล้เคียงกับบรรพบุรุษในอดีตได้ และกลุ่มเผ่านี้ยังมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “ยิปซิแห่งท้องทะเล” ซึ่งตอนนี้มีอยู่ประมาณ 200 คนด้วยกันโดยส่วนมากงานหลักคือทำประมง และชายของที่ระลึกให้กับนักท่องเที่ยวที่มาเดินทาง แต่ก็ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ให้กับทางอุทยาน