วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์เป็นวัดเก่ามีอายุถึง 400 ปี ตั้งอยู่ที่จังหวัดน่าน เดิมทีมีชื่อว่าวัดพรหมมินทร์ ได้ตั้งตามชื่อของผู้ครองนครน่านในสมัยนั้น นามว่า เจ้าเจตบุตรพรหมมินทร์ ได้สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2139 ภายหลังจากการครองนครน่านของเจ้าพรหมมินทร์ ต่อมาผู้คนได้เรียกชื่อวัดแห่งนี้ผิดเพี้ยนกันมาจนเป็น “วัดภูมินทร์” ในปัจจุบัน

พระอุโบสถจัตุรมุขเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเป็นที่รู้จักกันมาก ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมสวยงามผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ในตัวของ วิหาร เจดีย์และตัวอุโบสถไว้อย่างลงตัว มีพระพุทธรูปที่เป็นองค์พระประธานในตัวอุโบสถได้มีสี่องค์ หันหน้าออกไปสี่ทิศ ปางมารวิชัย มีนาคสะดุ้งแห่งอุโบสถเทินไว้กลางลำตัวเปรียบเหมือนกับการอุ้มชูทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาไว้  ประดิษฐานไว้ภายในอุโบสถ เป็นที่สักการะกราบไหว้ ขอพร สำหรับผู้คนที่หลั่งใหลไปเยี่ยม

ความสวยงามของวัดภูมินทร์นั้นไม่เหมือนที่อื่นคือ ตัวพระอุโบสถกับพระวิหารสร้างเป็นอาคารเดียวกัน ซึ่งเป็นทรงจตุมุขมีประตูอยู่ 4 ด้าน  และด้านข้างของอุโบสถ ได้มีสถูปเจดีย์พระมาลัยโปรดโลก ซึ่งได้สร้างขึ้นตามความเชื่อของคนโบราณในสมัยนั้นว่าพระมาลัยไปเห็นทั้งนรกและสวรรค์ แล้วกลับมานำเรื่องราวต่างๆที่ประสบพบเจอมาสอนให้แก่อุบาสก อุบาสิกา ได้รู้ว่าทำบาปอย่างนี้ ๆ ย่อมนำไปสู่นรกขุมนี้ ๆ และทำความดีอย่างนี้ ๆ จะได้ไปสู่สวรรค์ชั้นนี้ ๆ เป็นต้น

วัดภูมินทร์

ส่วนจิตรกรรมฝาผนังมีลวดลาย แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ

–  เรื่องชาดกต่างๆ คำสอนเกี่ยวกับเรื่องราวทางพระพุทธศาสนา เรื่องกรรมดี กรรมชั่ว

– วิถีชีวิตของชาวพื้นบ้าน

– ความเป็นอยู่ของชาวเมืองน่าน ในอดีต อาทิ การแต่งกายด้วยผ้าซิ่นลายน้ำไหล การทอ    ผ้าขึ้นใช้เองด้วยที่ทอมือ และยังมีการติดต่อซื้อขายทางการค้ากับชาวต่างชาติด้วย

ภาพจิตรกรรมฝาผนังยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ

บานประตูที่แกะสลักทั้ง4 ทิศมีความสวยงามพลิ้วไหวของดอกไม้ เถาวัลย์ อีกทั้งบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ ที่แกะสลักลงบนไม้สักทองซึ่งมีความหนาขนาด4นิ้ว แผ่นเดียวเท่านั้น ส่วนจิตรกรรมฝาผนังภายในของวิหารที่เรียกกันว่า ฮูปแต้ม ได้เขียนขึ้นใน  พ.ศ.2410 ซึ่งตรงกับสมัยของเจ้าอนันตวรฤทธิเดช ได้ใช้เวลาซ่อมแซ่มถึง 7 ปี

แล้วยังมีภาพกระซิบรักบันลือโลก หรือเรียกแบบดั่งเดิมก็คือ ภาพปู่ม่านย่าม่าน ประกอบคำกลอนที่สุดแสนโรแมนติกเป็นภาษาเหนือเพื่อได้บรรยายถ้อยคำการกระซิบบอกรักของท่านทั้งสอง ซึ่งแปลแล้วได้ใจความว่า ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว จะฝากไว้กล้างท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัวเมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอาความรักของพี่ไป เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี่รำพันถึงน้อง ไม่ว่ายามพี่นอนหบลับหรือสะดุ้งตื่น ซึ่งอาจารย์ สมเจตน์ วิมลเกษม ได้เป็นผู้แต่งคำกลอนขึ้น

วัดภูมินทร์ ยังได้สร้างพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านไว้ภายนอกของวิหารจัตุรมุขทางทิศใต้ ซึ่งได้เก็บข้าวของเครื่องใช้ของชาวท้องถิ่นน่าน มีทั้งเครื่องปั้นดินเผา เรือจำลอง พระพุทธ และยังมีการจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ของชุมนุมไว้เป็นของฝาก

# วัดพระศรีรัตนศาสดาราม

By admin

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *